หลักการค้นหาข้อมูลความรู้ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์
1. ต้องมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับความรู้ที่ต้องการ คือ
1.1 รู้ว่าข้อมูลที่ต้องการนั้นเป็นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องอะไร
1.2 รู้ว่าแหล่งข้อมูลที่มีข้อมูลนั้น น่าจะเป็นหน่วยงานใด
1.3 รู้ว่าสำคัญที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลนั้น มีอะไรบ้าง
2. ต้องรู้วิธีเข้าเว็บไซต์ต่างๆ
3. ต้องรู้จักวิธีใช้โปรแกรมสืบค้นข้อมูล หรือ Search Engine
4. ต้องรู้จักใช้ดุลยพินิจว่า
4.1 ข้อมูลที่ได้มาเป็นข้อมูลที่ตรงกับความต้องการหรือไม่
4.2 ข้อมูลที่ได้มาเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้หรือไม่
การสืบค้นข้อมูล
1. เครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบต่างๆ และข้อมูลที่มีอยู่ในเครือข่าย
1.1 อินทราเน็ต(Intranet) เป็นเครือข่ายภายในสำหรับองค์กรหนึ่งๆ ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร
1.2 เอกซ์ทราเน็ต(Extranet) มีลักษณะคล้ายกับอินทราเน็ต แต่เปิดให้สมาชิกภายนอกที่ได้รับอนุญาตต่อเชื่อมกับเครือข่ายได้
1.3 อินเทอร์เน็ต(Internet) เป็นเครือข่ายสาธารณะที่ไม่มีเจ้าของ ทุกคนสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายเชื่อมต่อได้เลย เพียงแต่ปฏิบัติตามกติกาที่คณะกรรมการอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศเป็นผู้กำหนด
1.4 รูปแบบของข้อมูลในเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ประเภทต่างๆ รูปแบบการนำเสนอข้อมูลและวิธีการเปลี่ยนข้อมูลที่แพรหลายมากจนกลายเป็นมาตรฐานไปแล้วคือรูปของ WWW ซึ่งมีอิทธิพลสูงมาก ทำให้เครือข่ายเกือบทุกประเภทเปลี่ยนมาใช้ตามเป็นส่วนใหญ่
2. การสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต
ใช้วิธีการที่เรียกว่า เซิร์จเอ็นจิน(Search Engine) ซึ่งเป็นโปรแกรมค้นหาข้อมูลอัตโนมัติ การค้นหาทำได้โดยการพิมพ์ คำสำคัญหรือ คีย์เวิร์ด (Key Word) เข้าไปในช่องที่กำหนด แล้วคลิกที่ปุ่ม Search หรือ Go โปรแกรมค้นหาจะเริ่มทำงาน การแสดงผลการค้นหาจะแสดงชื่อเว็บไซต์ URL และมักจะแสดงสาระสังเขปของเว็บไซต์นั้นๆด้วย
3. คำแนะนำการใช้ Google
3.1 การค้นหาแบบง่าย ให้พิมพ์คำที่ต้องการค้นหาเพียง 2-3 คำลงไป แล้วกดแป้น Enter หรือคลิกที่ปุ่มGo ก็จะแสดงเว็บเพจที่ค้นพบ
3.2 ข้อควรทราบเกี่ยวกับหลักการทำงานของGoogle เพื่อการค้นหาชั้นสูง
1. อักษรภาษาอังกฤษตัวเล็กตัวใหญ่มีผลไม่ต่างกัน โดย Google จะถือว่าเป็นอักษรตัวเล็กทั้งหมด
2. คำว่า And มีอยู่แล้วโดยปริยาย เฉพาะ Google จะหาเฉพาะเว็บเพจที่มีคำครบทุกคำ จึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้And
3. คำสามัญประเภท a,an,the,where,how จะถูกตัดทิ้งโดยอัตโนมัติ รวมทั้งตัวอักขระโดดๆ เพราะคำพวกนี้จะทำให้การค้นหาช้าลงและไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นแต่อย่างใด
4. การกำหนดเงื่อนไงไม่ใช้คำบางคำในการค้นหา โดยนำหน้าคำนั้นด้วยเครื่องหมายลบ(-)
5. การกำหหนดให้ใช้คำที่มีความหมายคล้ายกันด้วย ให้นำหน้าคำนั้นด้วยเครื่องหมาย Tilde
6. การเลือกคำหลักมีคำแนะนำ ดังนี้
6.1 ลองใช้คำตรงๆก่อน
6.2 ใช้คำที่คิดว่าน่าจะมีอยู่ในเว็บไซต์ที่ต้องการหา
6.3 ทำให้คำหลักมีความเจาะจงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
7. รูปคำที่มีรากศัพท์เดียวกันจะได้รับการพิจารณาโดยอัตโนมัติ
8. ในกรณีที่คำหลักมีความหมายหลายอย่างและไม่แน่ใจว่าควรใช้คำใด ให้ไปที่ Dictionary ของ Google
9. Google มีหน้าเว็บพิเศษสำหรับช่วยให้สามารถทำการค้นหาชั้นสูงได้ง่ายขึ้น ซึ่งสามารถค้นหาเป็นภาษาไทยได้
4. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์(E-mail) เป็นการติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงมากแบบหนึ่ง แต่มีข้อจำกัดตรงที่ทั้งผู้ส่งและผู้รับต้องมีอีเมลแอดเดรส(Email address ) ใช้หลักการเดียวกันกับการส่งจดหมายทางไปรษณีย์
5. กระดาษข่าวอิเล็กทรอนิกส์(Web forum) เป็นการติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่คล้ายกับการเขียนข้อความไว้บนกระดาน เพื่อให้กลุ่มคนที่ต้องการจะสื่อสารกันมาอ่านและเขียนโต้ตอบกันได้ แต่กระดานในที่นี้เป็นกระดานอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์
6. ห้องสมุด แหล่งข้อมูลความรู้
การกำหนดเลขรหัสที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมีสองระบบ คือ ระบบดิวอี้(Dewy Decimal System) นิยมใช้กันตามสถานศึกษา ส่วนระบบที่สองเป็นระบบใหม่กว่า เรียกว่า ระบบแอลซี(Library of congress System) เป็นระบบที่คิดขึ้นมาใช้สำหรับห้องสมุดรัฐสภาสหรัฐซึ่งเป็นห้องสมุดที่มีจำนวนหนังสือและเอกสารมากที่สุดในโลก
7. Digital Library (ห้องสมุดบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์)
Digital Library (ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์) หมายถึง การจัดเก็บสารสนเทศในรูปของสื่ออิเล็กทรอนิกส์ แทนที่จะจัดเก็บในรูปของสื่อพิมพ์ รูปแบบของเอกสารที่จัดเก็บที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุดในขณะนี้ คือ อีบุ๊ค (E-book) หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์กับ อีเจอร์นัล(E-journal) หรือวารสารอิเล็กทรอนิกส์ และอีแมกกาซีน(E-magazine) หรือนิตยสารอิเล็กทรอนิกส์
8. แหล่งข้อมูลของประเทศไทยบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
8.1 เว็บไซต์ประเภท Portal หรือ Gateway หรือ ชุมทาง เว็บไซต์ประเภทนี้มีประโยชน์มาก เวลาที่เราไม่แน่ใจว่าจะหาข้อมูลที่ต้องการเจอหรือไม่ หากเราเข้าไปในเว็บไซต์ประเภทนี้จะพบว่าในเว็บไซต์ได้ทำจุดเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่น ทำให้เราสามารถหาแหล่งข้อมูลได้ง่ายขึ้น
เว็บไซต์ชุมทางที่สำคัญในประเทศไทย คือ http://nectec.or.th จัดทำโดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
8.2 เว็บไซต์ประเภทของการศึกษา
เว็บไซต์ที่อาจถือได้ว่าเป็น เว็บไซต์ชุมทางประเภทของการศึกษา ได้แก่
8.3 เว็บไซต์ประเภทศิลปวัฒนธรรม
8.4 เว็บไซต์ประเภทท้องถิ่น ได้แก่ http://www.thaitambun.com ซึ่งเป็นที่รวบรวมเว็บไซต์ของตำบลต่างๆทั่วประเทศไทย เพื่อสนับสนุนโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
8.5 เว็บไซต์ประเภทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
8.6 เว็บไซต์ประเภทพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์(E-commerce) หมายถึง การทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับการค้าขายผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ได้แก่ เว็บไซต์http://www.ecommerce.or.th ของศูนย์พัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น